top of page

ความยากจนครัวเรือนไทย...
จะหลุดพ้นได้อย่างไร

รายงานความยากจนหลายมิติของเด็กในประเทศไทย

ลดความเหลื่อมล้ำ นำไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมไทยมาเป็นเวลานาน และคาดว่าจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังการระบาดของโควิด-19 สิ้นสุดลง บทความนี้ได้วิเคราะห์ปัญหาความเหลื่อมล้ำของไทยใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านผลลัพธ์ โอกาส และผลกระทบ พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางการดำเนินนโยบายลดความเหลื่อมล้ำอย่างเป็นระบบ

img_2.png
IpYe3UQbIvrZ1NhXZOn5 (1).jpg

ดัชนีความยากจนหลายมิติ หรือ Multidimensional Poverty Index (MPI)  จัดทำโดยโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ร่วมกับโครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และแก้ไขความยากจนแห่งมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด (Oxford Poverty and Human Development Initiative – OPHI) เป็นดัชนีที่ชี้วัดด้านต่าง ๆนอกจากรายได้ โดยครอบคลุมตัวชี้วัด 10 อย่างที่วัดในมิติการศึกษา สุขภาพ และคุณภาพชีวิต ซึ่งค่าดัชนีที่ต่ำลงหมายถึงระดับความยากจนที่ลดลง

เราต่างรู้ว่าความเหลื่อมล้ำเป็นเรื่องเก่าเล่าซ้ำ ประเทศไทยเป็นสังคมแห่งความเหลื่อมล้ำที่จับต้องได้ หลายพรรคการเมืองนำเสนอนโยบายให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซื้อหา ส่วนจะลดความเหลื่อมล้ำได้จริงหรือไม่ ต้องไปรอดูตอนเป็นรัฐบาล เอาเข้าจริง ไม่ใช่ว่าไม่รู้วิธีลดความเหลื่อมล้ำ แต่เพราะมีกลุ่มผลประโยชน์ที่ต้องการรักษาผลประโยชน์ของตนไว้ การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยจึงยากเย็น

32356870097_370ce8b365_h.jpg
Picture2-1536x779.png

การขจัดความยากจนถือเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) โดยที่ผ่านมาประเทศไทยดำเนินมาตรการขจัดความยากจนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สัดส่วนคนยากจนในประเทศไทยลดลงจากร้อยละ 10 ในปี พ.ศ. 2557 เป็นร้อยละ 6.24 ในปี พ.ศ. 2562

เมื่อพิจารณาถึงปัญหาความยากจนของไทยในเชิงลึก จะพบว่าปัญหาความยากจนของคนไทยส่วนหนึ่ง เกิดจากการที่ประชากรกลุ่มเฉพาะของไทย เช่น กลุ่มคนพิการ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มคนไร้บ้าน เข้าไม่ถึงสิทธิและสวัสดิการต่างๆของรัฐ    

graph-01-01-01-768x543.png
ช่องนี้จะเผยแพร่ในเร็วๆนี้!
bottom of page